เก้าอี้บาร์เบอร์อย่างที่เราเห็นๆ กันทุกวันนี้ที่ปรับสูง ต่ำ หมุนรอบทิศได้นั้นไม่ได้มีมาแต่ดั้งเดิม แต่เพิ่งมีมาเมื่อสงครากลางเมืองของสหรัฐอเมริกาเมื่อประมาณปี ค.ศ.1850 มานี่เองค่ะ
โรงงานแรกที่ผลิตคาดกันว่าน่าจะเป็นโรงงานที่ชื่อ “อาร์เชอร์คอมปานี” (Archer Company)ในเซนต์ หลุยส์ ในสมัยนั้นถือว่าเป็นเก้าอี้ไฮเทคมาก เพราะเป็นรุ่นแรกที่หมุนได้ และมีที่รองคอสวยงาม ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จนถึงต้นศวตตษที่ 20 ถือเป็นช่วงเวลาที่เก้าอี้บาร์เบอร์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก มีผู้ผลิตเจ้าดังๆ หลายแบรนด์ในสหรัฐอเมริหาที่แข่งขันกัน เช่น อูจีน เบอร์นนิ่งเฮาส์(Eugene Berninghaus) จากซินซีเนติ ธีโอดอร์ คอช(Theodore Koch) ในชิคาโ้ก เฉพาะเก้าอี้ในสมัยนั้นทำยอดขายได้อย่างน่าพอใจคือขายได้มากกว่า 35,000 ตัว
ในปี 1885 ความร้อนแรงของเก้าอี้บาร์เบอร์ทำให้มีการฟ้องร้องกันระหว่างบริษัทผู้ผลิตหลากหลายเจ้าถึงความเป็นเจ้าแรกในการคิดนวัตกรรมต่างๆ เช่นการปรับขึ้นลง การหมุนไปมา หรือการปรับนอน เป็นต้น โดยเฉพาะแบรนด์ใหญ่สองแบรนด์ “ไคลน์ แชร์ คอมปานี” (Kline Chair Company) และธีโอดอร์ คอชซึ่งถือว่าเป็นเจ้าตลาด ณ ขณะนั้น
ย่างเข้าศตวรรษใหม่ ปี 1900 เออร์เนส โกเกน(Ernest Koken) ผู้อพยพชาวเยอรมัน สร้างเก้าอี้ไฮดรอลิคเป็นครั้งแรกและมีการเพิ่มจอยสติ๊กด้านข้างที่นั่งเพื่อให้ช่างสามารถบังคับเก้าอี้ได้ง่ายมากขึ้น ยิ่งทำให้ธุรกิจบาร์เบอร์ในสหรัฐอเมริกาบูมขึ้นไปอีก เข้าสู่ช่วงกลางศตวรรษ ก็มีจำนวนร้านบาร์เบอร์ที่เปิดทั่วงประเทศนั้นมากกว่า 100,00 ร้านเข้าไปแล้วโดยขาใหญ่ของวงการนี้มีอยู่สามแบรนด์ด้วยกันคือ คือ เอมิล เจ ไพเดอร์ (Emil J. Paidar Company) จากชิคาโก้ เบลมอนต์ (Belmont)และอเมริกันบาร์เบอร์(American Barber Chair Company) จุดเปลี่ยนของธุรกิจนี้อยู่ที่เบลมอนต์ ได้ร่วมกับผู้ผลิตจากญี่ปุ่นสร้างแบรนด์ใหม่เป็น “ตาการะ เบลมอนต์” (Takara Belmont Company) ซึ่งในยุคนั้นถือว่าเป็นการลดต้นทุนได้มาก เพราะค่าแรงของแรงงานสหรัฐนั้นสูงกว่าเอเชีย ซึ่งถือเป็นส่วนที่ทำให้ตาการะ เบอลมองต์เติบโตอย่างมาก เพราะมีราคาถูกกว่าคู่แข่ง ณ เวลานั้นกว่า 20%-30% เลยทีเดียวและในปี 1969 ตาการะ เบลมอนต์ซื้อโคเคน บาร์เบอร์ ปัจจุบัน ตาการะ เบลมอนต์กลายเป็นผู้ผลิตเก้าอี้บาร์เบอร์ที่ครองตลาดไฮเอนด์มากที่สุดในสหรัฐอเมริกา