ใครๆ ก็บอกผมกับแชมพูเป็นของคู่กัน เพราะตามปกติเรามักสระผมกันวันเว้นวัน หรือไม่ก็ 2-3 วันต่อครั้ง แต่บางคนถึงขนาดสระทุกวันเลยนะ เพราะถ้าวันไหนไม่สระ ชีวิตเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง แต่ปัญหาคือถึงสระบ่อยแค่ไหน หากเลือกแชมพูไม่ดีต่อผมของเรา แทนที่ผมจะสะอาดและแข็งแรงปึงปังก็อาจกลายเป็นผมพังยับเยินไปก็ได้ ดังนั้นสาวๆ จะเลือกแชมพูทั้งที ก็ต้องมีเทคนิคในการเลือกให้ถูกวิธีกันหน่อย
1. ก่อนอื่นเช็กสภาพเส้นผมของเราว่า เป็นผมประเภทไหนใน 4 ประเภทนี้ ได้แก่
- ผมธรรมดา หรือผมที่มีสุขภาพแข็งแรง เงางามตามธรรมชาติ ไม่แห้งหรือมันเกินไป มีน้ำมันในปริมาณที่เหมาะสม จัดทรงง่าย

- ผมแห้ง หรือผมที่ขาดความเงางาม เปราะบาง ขาดร่วงง่าย และจัดทรงยาก

- ผมมัน หรือผมที่มีต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงเส้นผมเยอะ ทำให้เส้นผมมัน เยิ้ม ลีบติดหนังศีรษะ
- ผมเสีย หรือผมที่ผ่านกระบวนการทางเคมีบ่อยๆ เช่น ยืด ดัด ย้อม ทำสี จนทำให้เส้นผมแห้ง เสีย โคนผมอาจมีน้ำมันหล่อเลี้ยง แต่ปลายแห้งและเปราะบาง
2. เมื่อรู้แล้วว่าสภาพเส้นผมเราเป็นอย่างไร ก็จะไม่เกิดปัญหาเดินงงอยู่ในดงแชมพูกลางห้างอีกต่อไป เพราะเราสามารถเลือกแชมพูที่มีสรรพคุณตรงจุด ไม่เสี่ยงกับการทำให้ผมพัง อย่างเช่น
- ผมธรรมดา เป็นผมที่มีต้นทุนมาดี ใช้แชมพูสระผมแบบไหนก็ได้ แต่แนะว่าถ้าเลือกใช้ชนิดช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงและเพิ่มความชุ่มชื้น ก็จะดีสุด เพราะทำให้เส้นผมแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม
-
ผมแห้ง ควรเลือกใช้แชมพูสูตรบำรุงเส้นผมแห้งเสียอย่างล้ำลึก ที่มีโปรตีนเป็นส่วนผสมหลัก เพื่อช่วยบำรุงเส้นผมให้มีน้ำหนัก ไม่แห้งฟู และอย่าสระผมทุกวัน พร้อมกับหลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนสระผม แต่ให้ใช้เป็นน้ำในอุณหภูมิปกติ
-
ผมมัน สังเกตง่ายคือสระผมวันนี้ พรุ่งนี้ก็จะรู้สึกผมเหนียวเหนอะแล้ว โดยผมมันนี้เหมาะกับแชมพูสูตรอ่อนโยน สามารถสระได้ทุกวัน และหลังสระไม่จำเป็นต้องใช้ครีมนวดผม ยกเว้นเป็นผมมันที่มีแตกปลาย ให้ลูบครีมนวดบำรุงเฉพาะแค่ที่ปลายผมก็พอ
-
ผมเสีย ไม่ว่าจะเสียเพราะยืด ดัด ย้อม หรือทำสี ก็ให้เลือกใช้แชมพูที่ผลิตขึ้นมาสำหรับผมนั้นๆ โดยเฉพาะ อย่างผมยืดหรือดัด ควรใช้แชมพูสำหรับผมยืดหรือดัด และให้ใช้ครีมนวดผมตามทุกครั้ง หรือผมทำสี นอกจากใช้แชมพูเฉพาะสำหรับผมทำสีแล้ว ควรเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นจัดในการสระผมทุกครั้ง เนื่องจากจะทำให้ผมอ่อนแอยิ่งขึ้น
อ่านบทความอื่นๆเพิ่มติมได้ที่ https://www.sereechaibeauty.com/blog