1908: ปฐมบทของการกำเนิดแบรนด์
ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1908 ดอกเตอร์ ดับเบิลยู. เชาเฟิลแบร์คแกร์ (Dr. W. Schaufelberger) ผู้เป็นนักวิจัยด้านศาสตร์ฟื้นฟูสุขภาพ ได้ทนทุกข์ทรมานจากโรคไขข้อของตัวเองเป็นอย่างมาก เขาจึงคิดประดิษฐ์และพัฒนาอุปกรณ์หมอนไฟฟ้ามาบรรเทาอาการ และนี่ได้ถือเป็นจุดกำเนิดของแผ่นความร้อนขึ้นมาเป็นครั้งแรก จากนั้นเขาได้ก่อตั้งบริษัท Solis ขึ้นที่เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อผลิตและจัดจำหน่าย
1933: กำเนิดไดร์เป่าผม Solis เครื่องแรกที่ทำจากโลหะและไม้
ในปี ค.ศ. 1933 ไดร์เป่าผม Solis เครื่องแรกได้รับการพัฒนาในย่านถนน Stüssistrasse ใจกลางเมืองซูริก จากนั้นไม่นาน โรงงานในเมืองซูริกก็ได้ขยายตัวในปี 1944 เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตให้มากขึ้น และในปี 1948 หรืออีก 4 ปีต่อมา ก็ได้เปิดสาขาที่เมืองแรงคาเต รัฐทีชีโน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ด้วยข้อจำกัดในการเลือกสรรวัสดุที่มีให้เลือกไม่มากนัก ไดร์เป่าผม Solis เครื่องแรกจึงผลิตจากโลหะและไม้ โดยเป็นไดร์เป่าผมโลหะในตัวเรือนนิกเกิลที่แข็งแกร่งคงทน เพื่อรองรับการใช้งานหนัก มีพลังลมสูง ไร้แรงสั่นสะเทือน และสะดวกสบายด้วยมือจับทำจากไม้สุดประณีต อุปกรณ์มาพร้อมกับสายเคเบิลแบบสามแกนและปลั๊กสายดิน จึงไม่มีความเสี่ยงต่ออันตรายขณะใช้งาน และส่วนประกอบตั้งแต่มอเตอร์ไปจนถึงสายเคเบิลล้วนผลิตที่ Solis ทั้งสิ้น
1958: จุดเด่นผลิตภัณฑ์
นอกจากแผ่นทำความร้อนและเครื่องเป่าผมแล้ว ในช่วงปี ค.ศ. 1958 แบรนด์ Solis ยังผลิตโคมไฟควอตซ์, ผ้าห่มไฟฟ้า, เครื่องอุ่นจานระบบไฟฟ้า, ถุงนอนเก็บอุณหภูมิ, พรมอุ่น และเครื่องบดกาแฟไฟฟ้า ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือ แผ่นความร้อน Type 223 พร้อมสวิตช์โยกที่ได้รับการจดสิทธิบัตร
1985: เปิดตัวเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซอัตโนมัติเต็มรูปแบบเครื่องแรกของโลก
ถือเป็นปีแห่งความฮือฮาและน่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อย ที่มีการเปิดตัวเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซอัตโนมัติเต็มรูปแบบเครื่องแรกของโลก สำหรับใช้ภายในครัวเรือน ไอเดียนี้เกิดจาก Willy A. Nauer และ Arthur Schmed ที่เดิมพันความเสี่ยงในการพัฒนาเครื่องจักรนี้ร่วมกัน จนประสบความสำเร็จในเวลาไม่นาน และจากวันนั้นมาจนถึงปัจจุบัน Solis ได้จำหน่ายเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติไปแล้วกว่า 5 แสนเครื่อง